credit:techsauce
ไม่มีใครในช่วง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมานี้จะไม่ได้ยิน หรือ ไม่รู้จัก ดำว่า Meta (เมตา) หลังจาก มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง “Facebook” ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็น “Meta” นับเป็นการปลุกกระแสให้โลกของ Metaverse ถูกจับตามองมากยิ่งขึ้น
แดน สติ๊กเกอร์ จะนำคุณไปรู้จัก Metaverse (เมตาเวิร์ส) ไปด้วยกัน
“Metaverse” กำลังมา !!
“Metaverse” มาจากคำว่า Meta ที่แปลว่า “เหนือกว่า, พ้น, เกินขอบเขต” กับคำว่า Universe ที่แปลว่า “จักรวาล” ดังนั้นหากแปลตรงตัว Metaverse ถึงหมายโลกที่พ้นขอบเขตไปแล้ว หรือ จักรวาลที่พ้นขอบเขตที่เรารู้จัก แต่ในทางปฏิบัติ คำว่า “Metaverse” กลับเป็นการเรียกโลกเสมือนจริงที่พาผู้คนหรือผู้ใช้งานสามารถทำกิจกรรมและดื่มด่ำไปกับความสนุกอีกโลกหนึ่ง ผ่านทางอินเทอร์เน็ต เหมือนเราอยู่อีกโลกนึง ใช้ชีวิตคล้ายกับอยู่บนโลกความเป็นจริง
Cradit:Thairathonline
“Metaverse” คืออะไร?
Metaverse คือ การสร้างสภาพแวดล้อมของโลกแห่งความจริงและเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน จนกลายเป็น “ชุมชนโลกเสมือนจริง” ที่สามารถผสานวัตถุรอบตัวและสภาพแวดล้อมให้เชื่อมต่อกันเป็นหนึ่งเดียว โดยอาศัยเทคโนโลยี AR และ VR เข้ามาช่วยเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อให้กลายเป็นพื้นที่โลกเดียวกัน
- AR หรือ Augmented Reality คือ การนำเทคโนโลยีมาผสานโลกแห่งความจริงและวัตถุต่างๆ เข้าด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น การสร้างตัวละคร Avatar ผ่านสมาร์ทโฟน, สร้างฟิลเตอร์กล้องถ่ายรูป, การเล่นเกม Pokémon GO, โฮโลแกรมภาพ 3 มิติ
-
VR หรือ Virtual Reality คือ การจำลองภาพให้เสมือนจริงแบบ 360 องศา โดยอาจต้องใช้อุปกรณ์เสริมอย่าง แว่นตา VR เพื่อจำลองการรับรู้ การมองเห็น และการได้ยินเสียง ในโลกเสมือนจริง เช่น จำลองการกระโดดร่ม, การขับเครื่องบิน
Cradit:BBC News
Metaverse มีประโยชน์อย่างไร?
Metaverse สามารถช่วยจำลองให้เราไปอยู่ในสถานที่ต่างๆ ได้ แม้จะนั่งอยู่กับที่ก็ตาม โดยอาศัยการเชื่อมต่อผ่านรูปแบบต่างๆ เช่น อินเทอร์เน็ต, อุปกรณ์, สมาร์ทโฟน, แอปพลิเคชัน และซอฟต์แวร์
ในช่วงแรกๆ จะเริ่มมีการนำ Metaverse มาใช้ในแวดวงเกมออนไลน์ แต่ในภายหลังเริ่มมีการเข้าไปลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีด้านต่างๆ เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่สามารถครอบคลุม และรองรับเทคโนโลยี Metaverse ในอนาคตได้
เราจะเข้าสู่โลก Metaverse ได้อย่างไร?
- การใช้แว่น Oculus เพื่อให้เข้าถึงโลกของ VR (Virual Reality) ทำให้เห็นภาพ 3 มิติ แบบเต็มตาในมุมมอง 360 องศา ซึ่งสามารถสัมผัสโลกเสมือนจริงได้มากที่สุด แต่ราคาอยู่ประมาณหลักหมื่นขึ้นไป โดยอุปกรณ์ Oculus ดีๆก็ประมาณ 20000 บาทแล้ว
- .ใช้แว่น Ray-Ban หรือแว่นอื่น ๆ หรืออุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยี AR (Augmented Reality) ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถฟังเพลง รับสายโทรศัพท์ หรือถ่ายภาพและคลิปวิดีโอสั้นๆ แล้วแชร์ไปยังแอพโซเชียล ปัจจุบันราคาหลักพันถึงหลักหมื่นบาท และมีขายเฉพาะต่างประเทศ โดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกา
- ใช้งานผ่านอุปกรณ์ทั่วไป เช่น คอมพิวเตอร์, สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ผ่านแอพที่รองรับการทำงานเชื่อมต่อกับโลกเสมือน แม้อุปกรณ์ทำให้เราสัมผัสโลกเสมือนจริงได้น้อย แต่ก็สัมผัสกับโลกเสมือนจริงได้เช่นกัน เข้าถึงง่ายผ่านอุปกรณ์ทั่วไปที่เรามีอยู่นี่เอง
แว่น Oculus เพื่อให้เข้าถึงโลกของ VR (Virual Reality)
แว่น Ray-Ban ที่ใช้เทคโนโลยี AR (Augmented Reality)
Metaverse (เมตาเวิร์ส) อาจไม่ได้มีส่วนในการดำเนินชีวิตของเราในแต่ละวัน แต่สำหรับโลกอนาคตต่อไป เราอาจต้องใช้เทดโนโลยี นี้ ในการอยู่ใก้ลชิดกับคนที่เรารักได้